เมื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

Life event!

ในที่สุด เราก็ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ละค่า เป็นเบอร์ที่ใช้มา 10+ ปี ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกเลยมั้ง

จริงๆ ตั้งแต่เริ่มมีศาสตร์การดูดวงเบอร์โทรศัพท์ เราก็เคยเอาเบอร์เราไปใส่ดูดวงตามเว็บอยู่นะ ซึ่งเบอร์เราเป็นเบอร์ที่ไม่ดีอะ เลขติดลบเลยแหละ แต่ก็หาได้แคร์ไม่ เพราะคิดว่า action = reaction ชะตากรรมเราเป็นคนกำหนดเอง ก็คิดแบบนี้มาตลอดเนอะ

จนกระทั่งโควิดทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป ต่างๆ นานา มากมาย สารพัด เล่าไม่หมด 55555 เราก็เลยคิดว่า อะไรที่มันหนุนนำเราได้บ้างก็คงจะดี 5555 แต่ก็ไม่ได้ไปมูเตลูเต็มตัวอะไรขนาดนั้นนะคะ แค่อยากจะเชื่อในตัวเลขบางอย่างดูบ้าง ประจวบกับเพื่อนในกลุ่มเพิ่งเปลี่ยนเบอร์มาละก็แนะนำหมอดูเบอร์ให้ เราก็เลยดูเบอร์ และเปลี่ยนเบอร์กับหมอคนที่เพื่อนแนะนำค่ะ

การดูดวงเบอร์กับหมอที่เป็นมนุษย์ ต่างกับการเอาเบอร์เราไปใส่ในเว็บยังไงบ้างเหรอคะ? หมอดูเค้าจะอธิบายความหมายและสิ่งที่เป็นไปได้จากคู่ตัวเลข เอามาบวกๆ กับลักษณะชีวิต อาชีพ อายุของเราด้วยค่ะ ทำให้การพูดถึงคู่ตัวเลขบางคู่นั้นเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรา และเรามองเห็นภาพชัดเจนเลยว่าชีวิตเราที่มีเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้ขึ้น เป็นไปตามคู่ตัวเลขที่เขาบอกเลย ส่วนการดูผ่านเว็บ จะเป็นการรู้ถึงผลรวมๆ ของคู่เลขนั้นๆ

โดยที่เราได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนเบอร์อยู่แล้วตั้งแต่แรก ก็เลยให้หมอเค้าหาเบอร์ให้ด้วย ซึ่งเค้าจะหาเลขที่เหมาะกับอาชีพ อายุ ของเราค่ะ เช่น งานของเราเป็นงานที่ต้องใช้วาทศิลป์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มันก็จะมีคู่ตัวเลขที่สนับสนุนเรื่องพวกนี้อยู่ เรื่องของช่วงวัยก็เกี่ยวค่ะ เช่น คู่ตัวเลขที่สนับสนุนให้ชีวิตนิ่งๆ เรียบง่าย ก็อาจจะเหมาะกับคนมีอายุ มากกว่าคนหนุ่มสาว ที่ชีวิตยังต้องมีอะไรเข้ามามากกว่านี้อีกเยอะ เป็นต้นค่ะ

สิ่งที่อยากจะมาเล่าในวันนี้ จริงๆ แล้ว คือเรื่องของสิ่งที่ตามมาในการเปลี่ยนเบอร์ค่ะ นั่นคือ การแจ้งเปลี่ยนเบอร์กับหน่วยงานต่างๆ นั่นเอง

อันนี้เราจะเขียนเฉพาะที่เราได้ประสบมานะคะ

Continue reading

[Review] Autumn in Kansai 2019 ใบไม้เปลี่ยนสีที่คันไซ Day 1

กิจกรรมวันนี้

  • ปราสาทวากายาม่า
  • ตลาดปลา Kuroshio Market ที่ Marina City (มีตลาดผลไม้อยู่ติดกันด้วย) และต้องไปดูโชว์แล่ปลาทูน่า
  • ไปเยี่ยมน้องแมว Yontama นายสถานีประจำสถานีรถไฟ Kishi

เช้าวันนี้เราลงไปเช็คเอาท์ประมาณ 06:15 และขึ้นรถ Shuttle Bus ไปสนามบินคันไซรอบ 06:30 คุณลุงคนขับรถชัทเทิลทั้งรอบคืนก่อนหน้า และคนนี้ก็คือน่ารักมาก เอาจริง ไปญี่ปุ่นรอบนี้เจอคนน่ารักทุกคนเลย

ถึงสนามบินตอนประมาณ 06:50 พบปะญาติมิตรกันเรียบร้อย เดินออกจากสนามบินคันไซ ข้ามไปสถานีรถไฟ JR ฝั่งตรงข้าม แลกรับบัตร JR จากที่ตู้ป้ายสีเขียวได้เลยนะคะ ไม่ต้องไปแลกกับพนักงานในห้อง Ticket Office แล้ว ใช้วิธีสแกน QR Code จากแอพ KLOOK ที่เราจองมา บัตร JR ก็จะปริ๊นท์ออกมาได้เลย

JR WIDE AREA PASS จะหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ สามารถใช้เสียบในช่องที่ประตูกั้นทางเข้าสถานีรถไฟได้เลย สังเกตง่ายๆ ก็คือบัตรจะถูกเจาะรูไว้หลังจากเสียบใช้ครั้งแรก ห้ามทำหายเด็ดขาดดดดด

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟไปสถานี Wakayama กันเลยค่า เปลี่ยนรถหนึ่งครั้งที่สถานี Hineno ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40 นาทีเท่านั้น

ที่ Wakayama เราจองโรงแรม Dormy Inn Premium Wakayama Natural Hot Spring ไว้นะคะ ห้อง Double Room คืนละประมาณ 2,800 บาท ส่วนเรานอนห้อง Single คืนละ 2,100 บาทค่ะ ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า และเราจะนอนที่นี่กัน 2 คืนค่ะ

เราเลือกโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานี ตอนแรกจะจองอันที่อยู่ตรงสถานีรถไฟเลย แต่ราคามันแรงเกินไปมาก แบบ 3,500+ ก็เลยมาจบที่นี่ค่ะ ห่างจากสถานี 300 เมตร เดินประมาณ 5 นาที เราฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อนค่ะ ละก็ออกไปเดินเที่ยว โดยนั่งแท็กซี่จากหน้าโรงแรมไปปราสาทวากายาม่าค่ะ (บอกคนขับว่า วากะยะมะโจ) นั่งแท็กซี่มาเป็นเส้นตรงเลย ประมาณ 5-600 เยนเองค่ะ จำไม่ได้ และคุณลุงใจดีมากๆๆ เอาส้มมาให้พวกเราประมาณเกือบสิบลูก หยิบมาจากท้ายรถ ทำให้รู้ว่า อ๋อออ เมืองนี้เค้าดังเรื่องส้มนี่เอง มีส้มขายเต็มไปหมดเลยค่ะ

ตัวปราสาทจะอยู่บนพื้นที่สูง ต้องเดินขึ้นบันได หรือเดินขึ้นเนินไป แล้วแต่ว่าเราเริ่มจากฝั่งไหนของปราสาทค่ะ ด้านในปราสาทก็มีห้องจัดแสดงอุปกรณ์ อาวุธ ความรู้ ประวัติศาสตร์ต่างๆ ด้านนอกปราสาทมีสวนแบบญี่ปุ่น มีใบไม้เปลี่ยนสีให้เราพอถ่ายรูปชุ่มชื่นนิดหน่อย และมีสะพานโอฮาชิ (Ohashi Roka) ซึ่งเป็นสะพานสำหรับราชวงศ์เดินข้ามโซนของปราสาทสมัยก่อน(ถ้าเข้าใจไม่ผิด) เป็นสะพานที่ต่างระดับกันด้วยค่ะ เอียงๆ เค้าเปิดให้เราเดินด้านในด้วย เดินยากมากๆ

Continue reading

[Review] Autumn in Kansai 2019 ใบไม้เปลี่ยนสีที่คันไซ Day 0

เว้นการเขียน blog ไป 1 ปีครึ่ง แฮ่
หายไปไหนมานะ… หายไปยุ่งวุ่นวายอยู่กับชีวิตการบินเหมือนเดิม จนไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นในชีวิตเท่าไหร่มั้ง
ปี 2018 จริงๆ ก็มีทริปอยู่หลายที่ที่คิดว่าจะเขียน blog นะ เช่น มีไป Bromo มา แต่สุดท้ายพลังใจในการเขียนก็ไม่มี

ทริปนี้ เป็นทริปที่บ้านรีเควส คุณอาและอาสะใภ้บอกว่า อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นปีนี้ คุยกันไปคุยกันมา ก็ได้ความว่าไปฝั่งคันไซ เพราะเขาไม่ได้มากันนานแล้ว

คันไซ (Kansai) คือภูมิภาคที่อยู่ตอนกลางทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นค่ะ ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ ชิงะ (Shiga) นารา (Nara) วากายะมะ (Wakayama) เกียวโต (Kyoto) โอซาก้า (Osaka) และเฮียวโงะ (Hyogo)

เป็นทริปที่เราวางแผนสองรอบ รอบแรก แพลนไม่ผ่าน เพราะสถานที่ที่เราเลือกใส่ในโปรแกรม เป็น Tourist Spots ซะหมด เอ้า ก็บอกว่าไม่ได้ไปนานแล้ว 5555

รอบสองเลยทำไปแบบที่ที่ไม่ใช่ Mainstream tourist spot เป็นที่ที่เขาไม่เคยได้ยิน ไม่รู้จัก อะ แผนผ่าน

เพราะฉะนั้นรอบนี้ เลยมาเขียน blog ค่ะ เพราะรายละเอียด แน่น มาก!

ทริปนี้ 5 วันค่ะ 19-24 November 2019 ด้วยอีเวนต์หลายๆ อย่างทำให้เราไปวันที่ 19 คนเดียวก่อน คุณอาสองท่านตามมาวันที่ 20-24 ส่วนแฟนตามมาคนสุดท้าย 22-24 ค่ะ 5555555 รวมแล้ว 4 คนเนาะ

แผนทริปโดยรวมดังนี้

Day 0 – 19 NOV 2019 – Universal Studios Japan 
– USJ all day
⇒ นอน Hotel Aston Plaza Kansai Airport

DAY 1 – 20 NOV 2019 – Wakayama
– Wakayama Castle
– สวน Nishinomaru-Teien
– Kishi Station
– Kuroshio Market
⇒ นอน Wakayama [Dormy Inn Wakayama Natural Hot Spring] 

DAY 2 – 21 NOV 2019 – Kumano
– Trekking in Kumano
⇒ นอน Wakayama ที่เดิม

DAY 3 – 22 NOV 2019 – Uji + Fushimi Inari + Gion
– เมืองชาเขียว Uji
– ศาลเจ้า Fushimi Inari
– เดินเล่นย่าน Gion
⇒ นอน Kyoto [Hotel Gentle Fox Kyoto]

DAY 4 – 23 NOV 2019 – Kinosakionsen
– Kinosakionsen
⇒ นอน Kinosakionsen [Morizuya]

DAY 5 – 24 NOV 2019 – Kinosakionsen + Osaka
– ทำกิจกรรมกับชาวบ้านที่ Kinosakionsen
– Osaka ภาคบ่ายตามใจฉัน
– เดินเล่น กินข้าว Namba
– เข้าสนามบินกลับกรุงเทพ

อันนี้เป็นตารางแบบรูปภาพที่ทำไว้คิวท์ๆ พอถึงเวลาจริงไม่ได้ใช้หรอก 😁

Plan_0010

อันนี้คือปักหมุดใน maps ไว้เพื่อให้เห็นว่าเราเดินทางเยอะขนาดไหน เป็นทริปที่นั่งรถไฟเยอะมาก แต่ก็ได้ไปหลากหลายสถานที่มากๆ ด้วย จึงจำเป็นต้องใช้ PASS อะไรสักอย่างเพื่อลดค่าเดินทางแน่นอนนน

Continue reading