วันนี้ วันปีใหม่ 2014 ที่ลอนดอน เราซื้อตั๋วเข้าชมสตูดิโอของวอเนอร์บราเธอร์ไว้ เนื่องจากตอนเด็กๆ เป็นติ่ง Harry Potter มีปฏิทิน สมุด ฯลฯ ที่ซื้อจาก se-ed และยังเล่นเกม PC ด้วย กระโดดไปกระโดดมาเก็บเยลลี่ถั่ว 555
เสียดายที่ไม่ได้ดูหนังภาค 7.2 ก็เลยตกหล่นรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ไป
ค่าเข้าชม ปี 2014 ขึ้นราคาเป็น 30 ปอนด์ (เข้าชมวันแรกที่ขึ้นราคาเลยนะครัช) ถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่สิบคนขึ้นไป หรือว่ามาเป็นครอบครัว ก็จะเป็นตั๋วราคาพิเศษ
เว็บไซต์ http://www.wbstudiotour.co.uk/
การเดินทางไปยังสตูดิโอนั้น ไม่ยาก แต่ไกล =_= เราเลือกที่จะนั่งรถไฟไปยังสถานี Watford Junction แล้วนั่งรถบัสของสตูดิโอต่อจากที่นั่น (ตั๋ว return 2 ปอนด์) ใช้เวลานั่งรถบัสแค่ประมาณ 15 นาที แต่นั่งรถไฟจาก West Brompton > Watford Junction นี่ 38 นาที แถมยังต้องรอตั้งครึ่งชั่วโมงกว่ารถไฟจะมา – – เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าควรศึกษาเส้นทางและรอบรถไฟก่อนออกจากบ้าน
ด้วยความที่นั่งรอรถไฟนานมากที่ West Brompton เลยนอยด์ว่าถ้าไปสายเลยรอบที่จองไว้ จะเข้าชมได้รึเปล่า (ตอนซื้อตั๋ว เค้าจะมีระบุเวลาเป็นรอบๆ) ซึ่งพอเข้าไปดูในเว็บเค้าบอกว่า Not guaranteed entry แต่เค้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด เป็นคำตอบกว้างๆ อะนะ
แต่ในที่สุดเราก็ไปถึงทันเวลา เลยได้ไปซื้อแซนด์วิชกินนิดหน่อยก่อนเข้าชม (ด้วยความรีบ เลยไม่ได้กินอะไรเลย ตอนรอรถไฟก็ออกนอกสถานีไปซื้อไรกินไม่ได้) ขอบอกว่า ของทุกอย่างที่สตู แพง มาก มาก มาก และไม่ค่อยอร่อย (ยกเว้นสตาร์บั๊คส์) คือเราซื้อแซนด์วิช egg mayo นะ รสชาติงั้นๆ มาก แต่ราคา 2.75 ค่ะ สวัสดี
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว สิ่งแรกที่ทำคือ เอาใบจองที่ปริ๊นท์มาสแกนบาร์โค้ดที่ตู้ และใส่นามสกุลเราลงไป เพื่อปริ๊นท์ตั๋ว (เค้าจะส่งมาทางอีเมล์ และบอกว่า ต้องปริ๊นท์ใบนี้มาด้วย)
เข้าไปแล้วก็จะเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ประดับด้วยภาพถ่ายของนักแสดงค่ะ มีต้นคริสต์มาสด้วย ตามเทศกาลของที่นี่ 😀

คนเยอะมากกก ที่สังเกตคือ คนเกาหลีเยอะมากอะ ที่เหลือก็เป็นครอบครัว เจอเด็กน้อย คุณตาคุณยายน่ารักๆ เต็มไปหมด 🙂

โมเดลรถของบ้านวีสลีย์ ส่วน Digital Guide ที่เห็นนั้น ราคา 4.45 ปอนด์ เราเช่ามาด้วย เค้าทำดีนะ ใช้ iPod ทำ มีคลิปให้ดูเพิ่มเติม แต่ว่าแค่ที่มีให้อ่านและดูในสตูดิโอก็เยอะมากแล้ว เลยไม่ค่อยได้ฟัง หรือกดดูคลิปเพิ่มเท่าไหร่ ถ้าถามว่าควรเช่ามั้ย ถ้าเป็นแฟนแฮรี่ระดับธรรมดา ก็ไม่ต้องก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็ควรเช่ามานะ มีข้อมูลให้เสพเยอะมาก
ต่อคิวรอนานพอสมควร สิ่งแรกที่เจอคือห้องนอนใต้บันไดของแฮรี่
ต่อคิวแล้วเค้าจะพาเข้าไปในห้อง ชมภาพยนต์สั้นๆ เกี่ยวกับการสร้างภาพยนต์ แรงบันดาลใจ ฯลฯ
ที่ประทับใจคือ ฉากจบของภาพยนต์เป็นภาพประตูห้องโถงใหญ่ของฮอกวอต แล้วเค้าก็ดึงสไลด์ฉายภาพขึ้น แล้วกลายเป็นประตูจริงๆ
เข้าไปแล้วห้องแรกที่เจอคือห้องโถงใหญ่ ทานอาหาร ตอนนี้เค้าตกแต่งให้เป็นธีมคริสต์มาสทั้งสตูดิโอเลย ส่วนเพดาน เป็นเพดานเปิดธรรมดา เค้าไปใส่ภาพกราฟฟิคที่เป็นเพดานเทียนทีหลังค่ะ ตอนแรกเค้าใช้โมเดลเทียนกับสลิงห้อยลงมาจริงๆ แต่เกิดอุบัติเหตุเทียนไหม้ตกลงมา เลยเปลี่ยนเป็นใช้ภาพกราฟฟิคแทน
ออกจากห้องนี้ไปก็เป็นรายละเอียดแทบจะทุกอย่างของการถ่ายทำภาพยนต์แฮรี่พอตเตอร์ทั้งแปดภาคแล้วค่ะ บรรยายให้ดูทุกอย่าง เกือบทุกฉาก คอสตูม การแต่งหน้า การสร้างพรอพ การสร้างฉาก สรุปใจความได้ว่า ส่วนใหญ่แล้วเค้าใช้หุ่นยนต์ค่ะ ในหนังเลยสมจริงมากๆ คือ พวกสัตว์ประหลาดเอย หรือเอฟเฟคต่างๆ เช่น รอยเท้าบนหิมะที่แฮรี่เดินขณะใส่เสื้อคลุมล่องหน คือเคยคิดว่าเค้าใช้กราฟฟิคทำทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วเค้าใช้กลไกประดิษฐ์ขึ้นมาแล้วถ่ายทำ มันเจ๋งตรงนี้ อันนี้เป็นคลิปที่อัพไว้ในอินสตาแกรมค่ะ >> http://instagram.com/p/ipM69WNyBt/

นักแสดงใช้ครีมอะไรบ้างตอนแต่งหน้า.. ก็ประมาณนี้นะ ในซองพลาสติก มีไฝที่มีขน อยู่ด้วยแหละ ละเอียดมั้ยล่ะ

ถ่ายฉากขี่ไม้กวาด จะเห็นได้ว่าฐานไม้กวาดนั้นเป็นเครื่องยนต์ไฮดรอลิก สำหรับควบคุมการเคลื่อนไหวของไม้กวาด

ปิดท้ายด้วยโมเดลฮอกวอตส์ที่ใช้ถ่ายทำฉากมุมไกลทั้งหมด ผนังรอบห้องนี้เป็น Greenscreen เพื่อใส่กราฟฟิคลงไปหลังถ่ายทำ
ที่จริงมีมากกว่านี้อีกเยอะ อยากให้ลองมาดูเอง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งในการเดินดู ขาลากเลยจ้า
ช่วงระหว่างเปลี่ยนโซน มีที่ให้ซื้ออาหารทาน ราคามหาโหด รสชาติกลางๆ เช่นเดิม
ครั้งนี้ซื้อฮอตด็อกทาน ราคา 4.75 เพิ่มหอมใหญ่ ก็บวกๆ เข้าไปอีก
ที่พลาดไม่ได้ ต้องลองสักครั้ง คือ Butterbeer แห่งร้านไม้กวาดสามอัน
ราคา 2 กว่าๆ ใส่แก้วพลาสติกใสธรรมดา แต่ถ้าต้องการแก้วพิเศษที่เอากลับบ้านไปด้วยได้ (แบบในรูป) ก็จะกลายเป็นราคา 6.95 ปอนด์ (กรีดร้อง)

ตอนกดออกมาจากถังเบียร์ใหม่ๆ เป็นน้ำสีเหลืองใสๆ พร้อมฟองเบียร์ แต่พอตั้งไว้สักพักสีมันจะข้นขึ้นเป็นสีออกนมๆ คาราเมลแบบในรูป ซึ่ง Butterbeer ที่ขายนี้ไม่ใช่เบียร์จริงๆ นะคะ แต่เป็นน้ำหวานมากกว่า รสชาติแบบคาราเมลโซดา มันๆ และหวาน มาก มาก ถามว่าอร่อยมั้ย ก็อร่อยดีนะ แต่แก้วเดียวพอแล้วล่ะ เพราะหวานมันเลี่ยน(และซ่าไปในตัวเดียวกัน) แก้วนี้เก็บกลับบ้านอย่างดี ราคาเกือบ 5 ปอนด์
ตรงช่วงพักกึ่งกลางนี้ เป็นโซนฉากกลางแจ้ง เช่น Night Bus หรือหน้าซอย Privet Drive ด้วยแหละ แต่เราถ่ายรูปในกล้องเพื่อนแบบรีบๆ เพราะฝนตกหนัก ลมแรง และหนาวมาก ;__;
พอเข้าชมโซนที่สอง ซึ่งเกี่ยวกับโมเดลและหุ่นยนต์เสร็จแล้ว ปิดท้ายด้วยโมเดลฮอกวอตส์และฉากภายในร้านขายไม้กายสิทธิ์แล้ว ก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ
ซึ่ง
มีของขายเยอะมาก มีทุกอย่าง ของทุกบ้าน ลูกสนิชมีขาย ไม้กวาดไฟร์โบลต์(ไซส์ของจริง) ก็มีขายนะ ราคา 249.95 – -” ใครจะซื้อยะ
ตุ๊กตามีเยอะแบบ น่ารัก มาก มาก มาก แต่ทุกอย่าง แพง มาก มาก มาก เช่นกัน
ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาซะอย่าง #งก #ยกเว้นแก้วเบียร์ตอนซื้อbutterbeer
เข็มกลัด พวงกุญแจ สมุด แก้ว เสื้อ โปสการ์ด ไม้กายสิทธิ์ ขนมต่างๆ ฯลฯ
ส่วนพวกเสื้อผ้า ผ้าพันคอ คุณภาพค่อนข้างดีเลยแหละ เลยขายราคาพรีเมียมมั้ง
เห็นครอบครัวต่างๆ ซื้อของกันเป็นตะกร้าเลย – -” จนแย่

ปิดท้ายอีกครั้ง ด้วยตุ๊กตา Cerberus น้องหมาสามหัวเฝ้าประตูนรกคับบบ น่ารักนุ่มนิ่มมากๆ แถมมีเสียงกรนด้วย แต่ราคานั้น 20 ปอนด์ ซื้อไม่ไหว #บ๊ายบายยย
โดยรวมแล้ว ถ้าเคยดูแฮรี่สัก 4 ภาคขึ้นไป ถ้ามีโอกาสมาลอนดอน ก็ควรหาเวลามาเที่ยวที่นี่สักหนึ่งวันค่ะ เราซื้อตั๋วรอบ 11:30 กลับออกจากที่นี่ตอนประมาณ 16:30 ล่ะ หมดวันเลยทีเดียว ขาลากด้วย แต่สนุกมากๆ เลย เพราะทุกอย่างมันคือที่เราเคยเห็นในหนัง และแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่เรียนนิเทศ หรือชอบภาพยนต์ เพราะเราได้เห็นเบื้องหลัง การแบ่งฝ่ายทำงาน หน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ทั้งหมดประกอบกันเพื่อออกมาเป็นหนัง 8 ภาค ที่ใช้เวลาทั้งหมด 10 ปี
ฉากและพรอพทั้งหมดที่นี่เป็นของที่ถ่ายจริง เค้าถ่ายจบหนึ่งภาค เค้าก็เก็บของไว้ พอมีฉากที่จะใช้อีกในภาคถัดๆ มา ก็เอามาตกแต่งเพิ่มเติม ตอนนี้ถ่ายจบหมด 8 ภาคแล้ว เค้าก็เอามาโชว์ให้เราดู เรียกว่า คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงอีกสำหรับ Warner Brothers