Monthly Archives: November 2013

War in the air between pax

Guy Fawkes Day / Bonfire Night

มาอยู่ประเทศนี้แล้ว เราก็ควรจะทำตัว local ไปกะเค้าบ้างอะไรบ้าง ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมือง กินแต่อาหารบ้านตัวเองแบบที่ทำอยู่ตอนนี้ 555

ก็แหม.. อาหารอังกฤษมีอะไรบ้างเราก็ไม่รู้นอกจาก Fish&Chips ละก็ใช่ว่าอร่อย แถมแพงอีกตะหาก

ทำกินเองนี่ ผักเอเชียก็มีอิมพอร์ตเข้ามาขาย (ในราคามหาโหด) ช่วงหลังๆ นี้เลยงดซื้อผักเอเชียสักพัก เอาผักที่ซื้อซุปเปอร์บ้านเค้า เช่น แครอท ดอกกะหล่ำ celery มาทำแบบไทยๆ แทน ลดต้นทุนค่าผักเมืองจีนสักหน่อย

เมื่อวาน คือวันที่ 5 พฤศจิกายน เป็นวัน Guy Fawkes Day เล่าประวัติโดยย่อคือ ในปี ค.ศ. 1605 Guy Fawkes ถูกจับได้ในขณะกำลังเตรียมการระเบิด/เผา รัฐสภา อังกฤษ โดยเหตุผลตอนนั้นคือ มีความขัดแย้งเรื่องศาสนาและการเมืองค่ะ ใครสนใจอ่านเพิ่มได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Guy_Fawkes ไม่อยากเล่าเพราะเดี๋ยวผิด 5555

เพราะฉะนั้น ในวันที่ 5NOV ของทุกๆ ปี ในแต่ละท้องที่ทั่วอังกฤษ ก็จะมีการฉลองกันต่างกันไปเล็กน้อย เมื่อคืนเราไปที่ Woodhouse Moore (Hyde Park) มา เค้ากองเชื้อเพลิงไว้สูงมาก ประมาณ 4-5 เมตรได้ และเค้าจะกั้นรอบๆ บริเวณนั้นไว้ ทุกคนก็จะชุมนุม รวมตัวกันรอบๆ บริเวณนั้น พอเวลา 1 ทุ่ม ก็มีโฆษกประกาศอะไรสักอย่าง (ฟังไม่ออก) แล้วก็เริ่มจุดไฟกัน เฮ…

ถ่ายมาได้แบบนี้เพราะ.. ใช้ iPhone4 ห้าห้าห้า

เราก็ยืนเม้ามอย มองกองไฟกันไปจากระยะไกลแบบนี้ (เค้ากั้นรั้วไว้ไกลจากกองไฟพอสมควรเลยค่ะ) จนผ่านไปครึ่งชั่วโมง โฆษกก็ประกาศอีกครั้ง แล้วก็เริ่มจุดพลุค่ะ

ถ้าถามว่าสวยไหม ก็คงตอบว่าการระเบิดของพลุไม่ได้ซับซ้อนมากมายเหมือนบางงานใหญ่ๆ ของเมืองไทย แต่ก็สวยดีค่ะ มีหลายแบบให้ดู อีกอย่าง เราดูอยู่ใต้แท่นจุดพลุเลย (แท่นจุดพลุอยู่ห่างออกมาจากกองไฟ แต่อยู่ในวงล้อมเดียวกัน) เพิ่งเคยดูพลุแบบที่เราอยู่ใต้พลุแบบนี้ครั้งแรก (มั้ง) เลยรู้สึกว่าสวยมาก และความรู้สึกในใจมันเหมือน ระเบิดตู้ม แล้วก็ดับไปกะพลุ ยืนดูอยู่ประมาณสักยี่สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมงได้มั้ง ก็จบค่ะ ผลสรุปคือ เมื่อยคอมากๆ เพราะต้องแหงนดู 5555

จบจากอีเวนต์ตรงนั้น เดินมาฝั่งตรงข้ามก็มี carnival อยู่ค่ะ ตอนแรกว่าจะกลับแล้ว เพราะหนาวด้วยง่วงด้วย และนึกว่างานน่าจะตั้งอยู่สักอาทิตย์นึง พอไปถามเค้าบอกว่า มีวันนี้วันเดียว ก็เลยตัดสินใจเดินดูกัน

ในงานก็เป็นแบบงานวัดฝรั่งค่ะ มีรถเข็นขายของกินต่างๆ เช่น เกาลัดคั่ว, chips, hot dog, burgers, ขนมต่างๆ candy floss, sugar apple, และอื่นๆ กลิ่นหอมมากมาย โดยเฉพาะกลิ่นของร้อนนี่ โอย..

นอกจากของกินแล้ว ตัวหลักของงานคือเครื่องเล่นต่างๆ มีบ้านผีสิง หรือพวก haunted ride คือนั่งบนที่นั่งบนราง แล้วที่นั่งก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆ ไปเจอพวกสถานการณ์หลอกหลอนข้างใน หรือๆๆๆ รถบั๊มพ์ก็มีนะ แล้วก็พวกเครื่องเล่นชวนอ้วกต่างๆ หมุนไปหมุนมา รวมถึงซุ้มเล่นเกมแบบปาลูกดอก ตกเป็ด

ตกเป็ด Hook the duck

เครื่องเล่นหมุนไปหมุนมา

รถบั๊มพ์

พวกเราไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลย เดินดูบรรยากาศเฉยๆ ก็สนุกดี คนแน่นมากกก เพราะทุกคนก็แห่กันมาจาก Hyde Park นั่นเอง

รู้สึกโชคดีในเรื่องอากาศ เพราะช่วงนี้ฝนตกตลอด เมื่อวานก็ตกๆ หยุดๆ ลมพัดแรงมาก แต่ช่วงงานเมื่อคืนฝนไม่ตก และลมก็ไม่แรงเท่าไหร่

ระหว่างเดินกลับ ก็แวะซื้อไก่ทอดกันเสียหน่อย กลับไปกินกันที่ห้องต่อ 😛 ไม่ได้กลัวอ้วนเล้ยยยสาวๆ

เป็นอีกหนึ่งวันที่ออกไปข้างนอกแล้วรู้สึกดี (ปกติชอบหมกตัวอยู่ในห้อง ขี้เกียจออก)

เด็กไทย ไหน ต้องเจออะไรบ้าง

2 Replies

บางคนอาจจะคิดว่า เด็กไทย มาเรียนในประเทศศิวิไลซ์ผู้ดีอังกฤษแบบนี้ ชีวิตคงไม่ลำบากนักร๊อกกก

ในความเป็นจริงชีวิตก็ไม่ลำบากหรอกนะ แต่มันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนไปในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่หลายๆ คนคงนึกไม่ถึงมาก่อน จะเล่าให้ฟังเท่าที่นึกได้นะคะ

เวลาเข้าห้องน้ำ ไม่มีถังขยะทิ้งทิชชู่ แต่เราต้องทิ้งลงในโถส้วม

ห้องน้ำผู้หญิงที่นี่จะมีเพียงถังที่เอาไว้ใช้สำหรับทิ้งผ้าอนามัยเท่านั้น ซึ่งถังพวกนี้จะใช้หลักแรงโน้มถ่วง คือน้ำหนักของผ้าอนามัยจะทำให้ผ้าอนามัยตกลงในถังได้ ถ้าเราทิ้งทิชชู่เบาๆ ลงไป มันก็จะกองๆ อยู่ตรงฝาถังนั่นเอง เป็นภาพที่อเน็จอนาถมาก..

ทิชชู่ และ ชักโครก ที่นี่ ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกันค่ะ มากกว่า 95% ของการกดชักโครก ทิชชู่ทั้งหมดจะหายไปโดยดี แต่ในบางครั้ง ทิชชู่ก็ลงไปไม่หมด ไม่ต้องทำอะไรค่ะ ปล่อยไว้ยังงั้น ฝรั่งที่นี่เค้าไม่ถือ 55555

ไม่มีที่ฉีดก้น

ที่ฉีดก้นนี่เป็นปัญหาระดับชาติของคนไทยในเมืองนอกเลยทีเดียว สารภาพว่าก่อนมา obsessed กับเรื่องนี้มาก ระดับจะซื้อสายฉีดก้นเอามาต่อเองที่นี่แล้ว แต่ด้วยความไม่แน่ใจว่าชักโครกที่นี่จะมีท่อออกมาเหมือนบ้านเราหรือเปล่าก็เลยไม่ได้เอามา และพอมาถึงหอแล้วก็พบว่าชักโครกมันติดกับกำแพงเลยอะ อะแดปอะไรไม่ได้เลย 5555

วิธีแก้ปัญหาหรือคะ… “ขวดน้ำ” ประจำกายวางไว้ข้างชักโครกที่ห้องตลอดเวลา อ่านเรื่องที่ฉีดก้นเพิ่มเติมได้ที่ “ขี้อินดิแอร์”

ห้องน้ำในบ้านที่นี่ แบ่งโซนเปียกและโซนแห้ง โดยที่โซนแห้งไม่มีท่อระบายน้ำ

แล้วจะล้างห้องน้ำโซนแห้งยังไง??? คำตอบคือ “ถูบ้าน” ค่ะ คือใช้ไม้ถูพื้นถูกับน้ำยานั่นแหละ

หรือ ใช้ Disposable Floor Wipe มาเช็ดเอาก็ได้ค่ะ ซึ่งเราทำแบบนั้นอยู่ เราเป็นคนไม่ชอบถูบ้านอย่างมาก เพราะผ้ามันสกปรก พอมาที่นี่ มี wipe หลากหลายชนิดให้ใช้มาก ปกติที่ไทยจะเน้นขาย wipe ที่ใช้กับร่างกายคน (Baby wipe, Facial wipe) แต่ที่นี่มี wipe เอนกประสงค์สำหรับทำความสะอาดบ้านเยอะค่ะ ทั้งพื้นไม้ กระจก สแตนเลส อะไรนี่นางแยกชนิดให้เสร็จสรรพ สะดวกสบาย

ก๊อกน้ำแยกน้ำร้อนน้ำเย็น

ก๊อกแยกร้อนเย็น

ที่อ่างล้างมือ จะมีสองก๊อก ก๊อกแดงกับก๊อกน้ำเงิน ร้อนก็ร้อนซะแบบน้ำเดือด ส่วนเย็นก็ยะเยือกมาก ตอนล้างมือเราก็ใช้แต่น้ำเย็นค่ะ ทนเอา ส่วนเวลาแปรงฟัน ใช้แก้วผสมน้ำบ้วนปากเอา

น้ำก๊อกดื่มได้ (tap water)

น้ำประปาที่นี่ดื่มได้….. น้ำประปาที่ไทยก็ดื่มได้นี่หว่า.. (เกือบลืมไปแล้ว)

จริงๆ แล้วถ้าเราไปตามร้านอาหารแล้วขอ tap water เค้า เราก็จะได้น้ำตรงจากก๊อก มีเลมอนฝานใส่ให้ดูดีขึ้นมานิดนึง เด็กเอเชียส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ชินกับการกินน้ำก๊อก เราก็จะมีทางเลือกแรกคือ ต้มน้ำ แบบไทยๆ ทางเลือกที่สองคือ ใช้เหยือกกรองน้ำ ยี่ห้อยอดฮิต Brita เปลี่ยนไส้กรองทุก 1 เดือน

เหยือกกรองน้ำยี่ห้อ Brita แสนสะดวกสบาย

แปรงล้างส้วม

แปรงล้างส้วมประเทศชาติบ้านนี้ เค้ามาเป็นด้าม หัวแปรงกลม และมีที่ใส่ให้เรียบร้อย ซึ่งอีภาชนะบรรจุแปรงของมันเนี่ย ตัวรวมเชื้อโรคเลย ไม่รู้ใช้อะไรคิด – -” เราเลยไปหาซื้อ แปรง ที่เป็นตัวแปรงอย่างเดียว แล้วแขวนเอาไว้กับผนังห้องน้ำ ปัญหาอีกอย่างคือ มีแต่แปรงทรงนี้ เลยไม่เข้าใจว่าจะสามารถล้างตรงขอบด้านในของชักโครกได้ยังไง เราแก้ปัญหาโดย ใส่ถุงมือแล้วใช้ wipe ล้วงเข้าไปล้างตรงขอบด้านใน

ผลิตภัณฑ์มากมายหลากยี่ห้อ

น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ฯลฯ บางอย่างก็ไม่มียี่ห้อที่เราคุ้นเคย ก็ต้องเสี่ยงดวงเลือกกันไป ส่วนใหญ่ก็เลือกของแบรนด์ที่พอไว้ใจได้แบบ P&G หรือ Unilever เพลย์เซฟไว้ก่อน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ประเทศนี้มีผลิตภัณฑ์ระดับ ECONOMY ที่ถูก และ “ห่วย” (ขีดเส้นใต้) ว่าห่วย เกินกว่าจะใช้ได้ ถ้าเห็นแก่ของถูกซื้อมาใช้ บางทีต้องทิ้งก่อนใช้หมดอีกนะ ยกตัวอย่าง ทิชชู่ ถูกมากกกกก 1 ปอนด์มี 18 ม้วน แต่.. เอามาใช้จริงแล้วเปื่อยยุ่ยติดก้น =____= ก็ไม่ไหวป้ะ!! หรือกล่องข้าวที่หน้าตาดูเหมือน SuperLock แต่ราคาถูกกว่า เอามาใส่ข้าวไปกินกลางวันนี่.. น้ำผัดผักไหลลงกระเป๋าหมดค่า.. ไม่มีความ seal สักนิดเดียว (กว่าจะถึงจุดนี้ เจ็บมาเยอะ)

อากาศ

ประเทศนี้ฝนตกบ่อย ตกตลอดเวลา สิ่งที่ต้องเตรียม คือ ร่ม เสื้อโค้ตกันน้ำ รวมถึงรองเท้าดีๆ

ปัญหาหลักเรื่องอากาศเปียกๆ นี้ ทำให้ที่นี่นิยมที่จะใช้ “เครื่องอบผ้า” เด็กๆ ก็ต้องมาเรียนรู้สัญลักษณ์บนเสื้อผ้ากันว่า อันไหนคืออะไร

ซ้ายบน: อบผ้าได้

ขวาบน: อบได้ ความร้อนต่ำ

ซ้ายล่าง: อบได้ ความร้อนสูง

ขวาล่าง: ห้ามอบผ้าเด็ดขาด

ส่วนตัวเราดูสัญลักษณ์พวกนี้ประกอบ แล้วก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกต่อเสื้อผ้าแต่ละตัวด้วยค่ะ 555 มีเสื้อเชิ้ตตัวนึงเขียนว่าห้ามอบ แต่เราก็อบ แล้วมันก็ไม่พัง เราก็ยังคงอบมันต่อไป 😛

ประเทศนี้ไม่เหมาะกับรองเท้าส้นสูง

ด้วยลักษณะการคมนาคมแล้ว เราต้องเดินขึ้นลงเนิน ขึ้นลงบันได ค่อนข้างเยอะ เราเลยคิดว่าคนที่ใส่ส้นสูงได้เนี่ย เก๊งเก่ง.. หมายถึงนักเรียนนะคะ แต่อย่างคนทำงานที่นี่ เค้าก็ขับรถ ลงรถเดินนิดเดียว ก็ใส่ส้นสูงได้

สำหรับนักเรียนแล้ว เราแนะนำรองเท้าคู่ที่เราใส่ถนัดและสบายค่ะ

บัญชีธนาคาร และการใช้บัตร Debit

เวลาเราเปิดบัญชีธนาคารที่นี่ (เด็กไทยส่วนใหญ่ฮิต LLoyds กับ Barclays) เราจะได้บัญชีมา 2 อัน คือ Current Account กับ Saving Account ซึ่ง Current Account เนี่ยจะเป็นบัญชีที่ผูกกับบัตรเดบิตของเรา วิธีการใช้คือ เอาเงินที่ขนมาจากเมืองไทยดองไว้ใน Saving Account แล้วโอนเข้ามาใส่ Current Account แค่เพียงจำนวนหนึ่งในระดับที่ปลอดภัยอะค่ะ (อารมณ์เหมือนเวลาอยู่ไทย บัญชีที่มีบัตรเอทีเอ็ม เราก็ไม่ควรใส่เงินไว้เยอะๆ ใช่ม้า)

ร้านค้าที่นี่แทบทุกร้านรับบัตรเดบิตค่ะ แต่ถ้าเป็นร้านเล็กๆ อาจมีกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำอยู่บ้าง แล้วเวลาใช้บัตรเดบิตที่ร้านค้าเราต้องกดรหัสด้วยค่ะ เหมือนเวลากดเงินออกจากตู้เลย (ไม่เหมือนที่ไทยที่บัตรเดบิตใช้รูดเหมือนบัตรเครดิตได้เลย)

อีกเรื่องคือ เวลากด ATM ค่ะ ถ้าเรากดตู้ที่ไม่ใช่ของธนาคารเรา ก็ต้องไปกดตู้ที่เขียนว่า “Free Cash Withdrawal” หมายถึงไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดจ้า และลำดับการทำงานของตู้ที่นี่จะไม่เหมือนที่ไทย คือ กดเสร็จ ตู้จะคืนบัตรก่อน แล้วเงินออกมาทีหลัง (ที่ไทย เงินจะออกมาก่อน คืนบัตรทีหลัง) ที่พูดถึงประเด็นนี้เพราะ.. พี่ชายของข้าพเจ้า กลับไทยไปแล้วลืมบัตรทิ้งไว้คาตู้ATM 55555555

พื้นพรม

บ้านที่นี่ส่วนใหญ่ปูพรม เพราะเวลาหน้าหนาว ถ้าเป็นพื้นไม้ มันจะเย็นมากกกกกกกก ปัญหาคืออีพรมเนี่ย อมฝุ่น กวาดก็ไม่ได้ ดูดฝุ่นได้อย่างเดียว แล้วดูดก็ไม่ค่อยจะขึ้นด้วยนะ ไม่รู้ทำยังไงเหมือนกัน 😦

เตาอบ

ครัวที่นี่ มีเตาอบเป็นอุปกรณ์หลักเลย เด็กไทยในอังกฤษก็จะเรียนรู้การทำอาหารด้วยเตาอบอย่างสนุกสนานค่ะ สเต๊กเอย ขนมเค้ก คุกกี้ ฮันนี่โทสต์~

ร้านปิด!!

ร้านค้าที่นี่ปิดเร็วค่ะ 5-6 โมงก็ปิดแล้ว (ที่ไม่ใช่ร้านอาหาร) แถมบางร้านปิดวันอาทิตย์อีก เลิกเรียน 5 โมงเย็นนี่อดช็อปปิ้งนะคะ ซาร่า อะไรนี่ หกโมงปิดจ้ะ (แล้วแต่สาขา)

หรือแบบ หิวตอนตี 1 อยากออกมาซื้อไส้กรอก นี่ไม่มีขายนะ =_= แต่ร้านสะดวกซื้อ/ซุปเปอร์บางร้านก็เปิด 24 ชม. ขึ้นอยู่กับว่า เราอาศัยอยู่ในพื้นที่พัฒนาขนาดไหน 55555

————-

ก็ประมาณนี้แหละมั้ง ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับการเปลี่ยนแปลงอะไรพวกนี้หรอก มีปัญหากับการปรับสมองให้เข้ากับการเรียนมากกว่า 555555

สู้นะ(บอกตัวเอง) ตอนนี้ 23% แล้ว ฮึบ ฮึบ ฮึบ

katoonix

your new self every day

Monthly Archives: November 2013

War in the air between pax

Guy Fawkes Day / Bonfire Night

เด็กไทย ไหน ต้องเจออะไรบ้าง

Share this:

Like this:

Share this:

Like this:

Share this:

Like this: