เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
เราได้รับแจ้งจากชาวทวิตเตอร์คนนึงว่า มีคนใช้รูปเราในเฟซบุ๊คไปเป็นรูปของตัวเอง
เนื้อความดังนี้ค่ะ จากคุณ @Tukshiro
ซึ่งก่อนหน้านี้ เรากับ @Tukshiro ไม่เคยคุยกันมาก่อนนะคะ พอได้รับแจ้งก็เข้าไปดู.. เกิดอาการ panic อย่างแรง เพราะไม่เคยเจอ และสำหรับเฟซบุ๊คเอง เราตั้งค่า privacy ไว้เฉพาะ friends แล้ว และเราก็มีการจัดทำ list friends เพื่อแยกเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งเราไม่รับแอดคนมั่วๆ ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นจึงงงมากเมื่อเกิดเรื่องกับเฟซบุ๊คของเรา
หน้าตาเฟซบุ๊คของตัวคนที่ก๊อปปี้ไปเป็นแบบนี้นะคะ
โพรไฟล์ใช้ชื่อว่า “Sirapa PJ” บอกว่าทำงานโรงพยาบาลค่ะ รูปที่ใช้เป็นรูปโพรไฟล์ปัจจุบันนั้นไม่ใช่รูปเรา แต่ว่ารูปที่เหลือใน Profile picture album นั้นเป็นรูปเราเกือบหมดค่ะ
ตอนที่เรารู้เรื่อง เรากำลังจะเลิกงาน เล่นผ่าน iPhone จึงไม่ค่อยสะดวกทำอะไรเท่าไหร่ และต้องขับรถกลับบ้าน ดังนั้นระหว่างกลับบ้านเราก็ทวีตให้เพื่อนๆ ช่วยกัน Report ค่ะ แล้วพอถึงบ้าน เรามาเปิดของเค้าดูอีกครั้งนึง เค้าก็เปลี่ยนรูปโพรไฟล์เป็นรูปเราค่ะ คราวนี้เรายิ่งปรี๊ดแตกมากๆ
จากข้อมูลของคุณ @Tukshiro ทำให้รู้ว่าเค้ารู้ข้อมูลของเราระดับนึง และเค้าใช้รูปเรามาเป็นเวลา 2 เดือนเลยทีเดียว แต่เค้าคงไม่ใช่ friends ของเรา เพราะรูปที่เธอก๊อปมาได้มีแค่รูป Profile picture ของเราเท่านั้นค่ะ
นอกจากรูปของเราแล้วก็มีรูปของคนอื่นๆ ปนมาบ้างสองสามรูปค่ะ มีคนบอกให้เราแจ้งความ แต่เรายังไม่ทันแจ้งความ Profile นี้ก็ถูกลบออกไปจากเฟซบุ๊ค ไม่แน่ใจว่าทางเฟซบุ๊คลบเพราะรีพอร์ตที่กระหน่ำเข้าไป หรือว่าเพราะเค้ารู้ตัวเลยปิดหนีไป
ข้อมูลบอกมาว่า เธอใช้ชื่อ+นามสกุลจริงของเรา แต่ใช้ชื่อเล่นว่าแจม ค่ะ ในรูปทางซ้ายจะมีรูปโพรไฟล์รูปนึงที่เราถ่ายคู่กะน้องหมา แล้วเราแต่งรูป เขียนชื่อเราว่า หมากตน. และเขียนชื่อหมาว่า คุณนายทองสร้อย.. รูปนั้น คุณแจมเธอก็อุตส่าห์ก๊อปไปใช้นะคะ แล้วใช้โปรแกรมกากๆ แปะคำว่า “หมาแจม” ทับลงไปตรงคำว่า “หมากตน.” ของเรา… แย่ที่สุด
รูปทั้งหมดนี้เรา capture ทันทีตอนที่รู้เรื่องค่ะ ก็เลยมีรูปเก็บไว้
อ้อ.. แล้วจากที่คุณ @Tukshiro บอก ก็ยังมีอีกโพรไฟล์นึงที่คุณแจมเธอใช้ก่อนหน้าอันนี้ (Mj Tarakit) แต่เธอเลิกใช้ไปแล้ว เราก็เข้าไปดูก็เป็นรูปเราอีกเช่นกันค่ะ (work at Hospital เช่นกัน สงสัยตัวจริงคุณแจมเธอจะทำงานโรงพยาบาลจริงๆ) แต่ไม่มีเฟรนด์ไม่มีอะไร และเราเพิ่งกด Report ไปวันนี้เอง คาดว่าอีกไม่นานเฟซบุ๊คคงเข้ามาจัดการ เพราะการกดรีพอร์ตเมื่อวันที่ 19 กับวันนี้ต่างกันค่ะ กด รีพอร์ตวันนี้ เฟซบุ๊คให้ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงไปด้วยและไม่ต้องใส่เบอร์โทรศัพท์แล้ว (เมื่อวันที่ 19 เฟซบุ๊คให้เราใส่เบอร์โทรเพื่อรับ OTP และยืนยันข้อมูลค่ะ ซึ่งมือถือเรากดไปกี่ทีก็ไม่ได้รับ OTP เลยรีพอร์ตไม่ได้เสียที สุดท้ายต้องใช้เบอร์ของพี่ชาย ก็ได้รับ OTP ภายในเวลา 5 วินาที ป.ล. พี่ชายกับเราใช้เบอร์คนละค่ายกัน ไม่รู้อันนี้เกี่ยวหรือเปล่า)
เราไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไร แต่ว่าเค้าไม่ได้เอาไปแท็กขาย MLM แน่ๆ ถ้าทำยังงั้นยังจะพอเข้าใจได้มากกว่านี้อีกนะคะ อันนี้เอามาใช้แล้วคุยกับคนโน้นคนนี้
ตอนนี้เฟซบุ๊คได้เปลี่ยน features ใหม่ๆ ให้ผู้คนตาม Stalk กันได้มากขึ้น สิ่งที่เราแนะนำได้ตอนนี้ก็แค่การตั้ง list เพื่อน ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากๆ และไม่รับแอดใครมั่วๆ เท่านั้นเองค่ะ
แนะนำให้อ่านบทความ “ภัยน่ากลัวของ Social Network สิ่งที่เราควรระวังมีอะไรบ้าง? (2nd Edition)” จาก @worawisut ค่ะ พวก 4sq เมื่อก่อนเราก็เคยเช็คอินซอยบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยแล้วค่ะ กลัวจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาถึงบ้าน ^^”
โดยส่วนตัวแล้ว facebook เรามีแต่เพื่อน มีแต่คนรู้จักค่ะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร.. ปัญหาจริงๆ คือทวิตเตอร์มากกว่า เพราะเมื่อก่อนเราตั้ง protected tweet มีเฉพาะเพื่อนที่เรายอมให้ follow เราจึงทวีตตามใจฉันให้เพื่อนอ่านมาตลอด แต่ตอนนี้เราเปิด public ทำให้มีใครก็ไม่รู้มาอ่านทวีตเราได้ แต่เราก็ยังจะติดทวีตแบบเดิมอยู่.. คงต้องระมัดระวังกันให้มากขึ้นจากนี้ไปค่ะ
สังคม Social Network มีทั้งคนดีๆ มีทั้งคนไม่ดี.. การได้พบได้เจอคนดีๆ ก็ถือเป็นโชคชะตาที่ดีค่ะ ^^ ทำให้เราได้รู้จักคนที่ปกติเราคงไม่ได้มีโอกาสรู้จัก ทำให้เรามีเพื่อนมีมุมมองใหม่ๆ มากมาย แต่ในทางกลับกันก็มีคนประสงค์ร้ายอีกมากที่เราไม่รู้ตัว
ขนาดคนรู้จักกันตัวเป็นๆ บางคนรู้หน้ายังไม่รู้ใจเลย.. แล้วจะเอาอะไรกับคนที่เปิดเผยเราแค่ตัวอักษรกันคะ? โอกาสเสี่ยงก็มากขึ้นเท่านั้นเอง
สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกๆ คนที่ช่วย report และเป็นห่วงเป็นใย ขอบคุณเพื่อนดีๆ ใน Social Network ค่ะ ^^ ระวังตัวกันให้มากขึ้นนะคะ ภัยใกล้ตัวที่คุณคาดไม่ถึงมันมาแล้ววววว~*
katoonix 